ปุ๋ยปลาหมัก ราคาปุ๋ยหมักปลา (ปุ๋ยปลาร้า)สุดยอดปุ๋ยอินทรีย์น้ำคุณภาพสูง

ปุ๋ยปลาหมักหรือปุ๋ยปลาร้า สุดยอดปุ๋ยอินทรีย์น้ำที่มากด้วยสารอาหารที่จำเป็นสำหรับพืชทุกชนิด

ปุ๋ยหมักปลาหรือปุ๋ยปลาร้าได้จากการนำปลามาหมักด้วยจุลินทรีย์จนกลายเป็นของเหลวที่เป็นอาหารพืช

ปุ๋ยปลาร้า ปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อจำนวนมาก และมีปริมาณแร่ธาตุอาหารที่พืชต้องการมากกว่าปุ๋ยน้ำ หมักชีวภาพที่ผลิตจากพืช ผลไม้ หรือแม้แต่จากสัตว์อื่นๆและปุ๋ยน้ำหมักที่

ผลิตจากปลาทะเลจะพบสารอาหารมากกว่าปุ๋ยน้ำหมักจากปลาน้ำจืด

ปุ๋ยปลาหมัก ประโยชน์ประโยชน์ของปุ๋ยปลาหมัก

  • ช่วยสร้างความแข็งแรงให้กับพืชเนื่องจากในปุ๋ยปลาหมักมีธาตุอาหารรองและธาตุอาหารเสริมจำนวนมาก

         เป็นที่ยอมรับกันว่าปุ๋ยที่ผลิตจากปลาหรือสัตว์ให้สารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อพืชได้มากที่สุดโดยเฉพาะปุ๋ยปลาหมักที่ใช้ปลาทะเลจะให้ธาตุ               อาหารทั้งจำนวนและปริมาณความเข้มข้นมากกว่าปุ๋ยปลาหมักที่ใช้ปลาน้ำจืด  

         ดังนั้นการใช้ปุ๋ยปลาในพืชจึงทำให้พืชได้รับสารอาหาร ทั้งธาตุอาหารหลักและธาตุอาหารรองรวมถึงจุลธาตุ ซี่งการที่พืชได้รับธาตุอาหารอย่าง             ครบถ้วนส่งผลให้พืชเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์ แข็งแรง ทนทานต่อโรคและแมลงศัตรูพืช ช่วยลดต้นทุนการดูแล

  • การให้ปุ๋ยปลาหมักทางใบกับพืชจะช่วยให้พืชนำธาตุอาหารที่ได้จากปุ๋ยปลาหมักไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว

         การให้อาหารทางใบเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับพืชเพราะในบางช่วงเวลา พืชไม่สามารถดูดซับธาตุอาหารทางดินได้เพียงพอต่อความต้องการใช้ อาจ             เนื่องมาจากสภาพแวดล้อมทางดินไม่เอื้ออำนวยต่อการดูดซับอาหารทางดิน เช่น ระบบรากถูกทำลายจากเชื้อราที่เป็นสาเหตุของโรครากเน่าโคน           เน่า หรือเกิดน้ำท่วมขังบริเวณรากพืช

ปุ๋ยหมักปลาทะเล

        ดังนั้นจึงต้องเสริมการให้ธาตุอาหารทางใบกับพืช การให้ปุ๋ยปลาหมักทางใบเป็นการเติมธาตุอาหารให้พืชอย่างเร่งด่วน ช่วยให้พืชดูดซึมไปใช้ได้          ง่ายเพราะมีกรดอะมิโนทำหน้าที่เป็นสารคีเลตธรรมชาติช่วยนำพาธาตุอาหารเข้าสู่เซลล์พืชและกรดอะมิโนเหล่านี้สามารถเคลื่อนย้ายในพืชได้ดี            กว่าสารคีเลตสังเคราะห์และได้มีการศึกษาวิจัยพบว่าธาตุอาหารพืชที่อยู่ในรูปกรดอะมิโนคีเลตพืชสามารถนำไปใช้ได้มากกว่าธาตุอาหารที่อยู่ใน            รูปสารประกอบคีเลตสังเคราะห์

  • ปุ๋ยปลาหมักเป็นอาหารชั้นยอดของจุลินทรีย์ดิน

กรดอะมิโนโปรตีนเป็นอาหารชั้นยอดของจุลินทรีย์ดิน ดังนั้นการใช้ปุ๋ยหมักปลาจึงเป็นการเพิ่มอาหารให้กับจุลินทรีย์ดิน ส่งให้จุลินทรีย์เพิ่ม            ปริมาณและกิจกรรมการย่อยสลายอินทรีย์วัตถุได้ไวขึ้นช่วยปลดปล่อยธาตุอาหารออกมาให้พืชมากยิ่งขึ้น และปุ๋ยปลาหมักยังเป็นอาหารของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กอื่นๆที่อยู่ในดินนอกเหนือจากจุลินทรีย์ ซึ่งการที่ดินมีสิ่งมีชีวิตอยู่จำนวนมากเป็นตัวชี้วัดความสมบูรณ์ของดินได้เป็นอย่างดี ดังคำกล่าวที่ว่า ดินดี คือดินมีชีวิต

  • ปุ๋ยปลาหมักช่วยเร่งโตในพืชทุกชนิด เพราะมีไนโตรที่อยู่ในรูปที่พืชนำไปใช้ได้ทันที

ปุ๋ยปลาหมักมีไนโตรเจนอยู่ในปริมาณมากซึ่งไนโตรเจนเหล่านี้อยู่ในรูปพันธะกรดอะมิโน การฉีดพ่นปุ๋ยปลาทางใบหรือการให้ปุ๋ยปลาหมักทางดินทำให้พืชได้รับธาตุไนโตรเจนเพื่อใช้ในการสร้างการเจริญเติบโตได้ทันที โดยเฉพาะการให้ปุ๋ยปลาหมักทางใบจะช่วยให้พืชได้รับไนโตรเจนอย่างรวดเร็วเพราะกรดอะมิโนที่อยู่ในปุ๋ยปลาหมักสามารถเคลื่อนที่เข้าสู่ช่องทางเปิดต่างๆของปากใบได้อย่างดี

  • มีวิตามินแร่ธาตุช่วยให้พืชทนต่อความเครียดที่เกิดจากอากาศที่ร้อนจัดหรือหนาวจัด

ขายปุ๋ยปลาหมัก

ในปุ๋ยปลาหมักนอกจากมีธาตุอาหารหลัก ธาตุอาหารรองและธาตอาหารเสริมแล้ว ยังพบวิตามินและน้ำมันต่างๆที่ได้จากปลาโดยเฉพาะปลาทะเล ซึ่งวิตามินเหล่านี้จะช่วยให้พืชมีความทนทานต่อความเครียดที่เกิดจากสภาวะอากาศที่แปรปรวน เช่นร้อนจัดหนาวจัด

  • การใช้ปุ๋ยปลาหมักช่วยให้พืชได้รับกรดอะมิโนโปรตีน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนชนิดเดียวกับที่พืชสร้างขึ้นด้วยตัวเอง

กรดอะมิโนโปรตีนนอกจากจะทำหน้าที่เป็นสารคีเลตธรรมชาติแล้ว กรดอะมิโนโปรตีนยังเป็นสารตั้งต้นสำหรับการผลิตฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโตในพืชอีกด้วย ดังนั้นการให้ปุ๋ยหมักปลาทางใบจึงเปรียบเสมือนการให้กรดอะมิโนทางด่วนกับพืชนั่นเอง พืชสามารถนำกรดอะมิโนเหล่านี้ไปใช้สร้างออร์โมนต่างๆที่พืชต้องการใช้ได้ทันที

ซึ่งช่วยลดเวลาและพลังงงานที่พืชต้องนำมาใช้ในการสร้างกรดอะมิโนด้วยตัวเอง ส่งผลให้พืชที่ได้รับปุ๋ยปลาหมักโตไว สมบูรณ์ให้ผลผลิตได้ไว ได้ผลผลิตคุณภาพ

ปุ๋ยปลาหมักเป็นสูตรของ วทปุ๋ยปลาหมักสูตรของ วท

ปุ๋ยปลาหมักสูตรของ วท เป็นสูตรผลิตปุ๋ยปลาที่น่าสนใจเพราะให้ปุ๋ยปลาคุณภาพสูงเมื่อเทียบกับสูตรการผลิตปุ๋ยปลาหมักสูตรอื่นๆ

สูตรการทำปุ๋ยปลาหมักของ วท

วิธีการผลิต

  1. ปลา จำนวน 40 กิโลกรัม (ปลาทะเลหรือปลาน้ำจืดก็ได้ครับ ถ้าเป็นปลาทะเลควรล้างด้วยน้ำจืดก่อนครับ)
  2. กากน้ำตาล (โมลาส) จำนวน 20 กิโลกรัม (ในกรณีหากากน้ำตาลไม่ได้สามารถใช้น้ำตาลทรายแดงแทนได้ครับ )
  3. หัวเชื้อปุ๋ยหมัก พด.-2 จำนวน 1 ถุง (ขอได้ที่เกษตรอำเภอใกล้บ้าน)

วิธีทำปุ๋ยปลาหมักขั้นตอนการทำ

นำหัวเชื้อปุ๋ยหมัก พด.-2 (ขอได้ที่เกษตรอำเภอใกล้บ้าน) มาละลายในน้ำอุ่น 20 ลิตร ผสมลงในถัง ขนาด 200 ลิตร พร้อมปลาหมักและกากน้ำตาล เติมน้ำสะอาดจนเกือบเต็ม แต่อย่าให้ถึงกับล้นประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์นำไนล่อนชนิดถี่มาปิดไว้เพื่อป้องกันแมลงวันวางไข่ หมักไว้ประมาณ 25–30 วัน ในระหว่างนี้น้ำในถังจะเริ่มลดลง

ให้เติมน้ำสะอาดลงไปอีก และหมั่นคนปุ๋ยอย่างน้อยวันละ 2–3 ครั้ง โดยเฉพาะในช่วง 7 วันแรกของการหมักปุ๋ยปลา หลังจาก 2 สัปดาห์ของการหมักให้คนสัปดาห์ละ 1 ครั้งก็พอ ในกรณีใช้พ่นทางใบ ควรหมักให้นานกว่าปกติ ประมาณ 60-90 วัน ยิ่งนานยิ่งดี เพราะถ้านำมาใช้เร็ว อาจเกิดผลเสียทำให้ใบไหม้ได้

วิธีสังเกตดูว่าเมื่อไรจึงจะนำปุ๋ยน้ำมาใช้ได้

  1. ระยะที่ 1 สังเกตน้ำปุ๋ยจะออกเข้มข้น เป็นฟองใหญ่ไม่แตกง่าย
  2. ระยะที่ 2 ฟองจะค่อยๆ เล็กและแตกง่าย จะมีกลิ่นหอม
  3. ระยะที่ 3 ฟองจะค่อยๆ เล็กลงมากๆ มีกลิ่นน้ำส้มคล้าย ๆกลิ่นแอลกอฮอล์และฟองจะละเอียดมาก

ปุ๋ยปลา ประโยชน์ประโยชน์ของการใช้ปุ๋ยน้ำหมักปลา

  1. ออกดอกเร็ว เก็บผลผลิตได้เร็ว ได้ผลผลิตปริมาณที่มากขึ้นและมีคุณภาพดี
  2. ลงทุนน้อย ลดต้นทุนในการผลิตและสามารถผลิตไว้ใช้เองในครัวเรือน
  3. ไม้ผลจะมีรากแข็งแรง ใบสวย ใบใหญ่และยังปรับให้สภาพพื้นที่ดินดี ไม่เสีย ไม่เปรี้ยว

ธาตุอาหารในน้ำหมักปลาวิธีการนำปุ๋ยปลาหมักไปใช้

  1. กรณีใช้ฉีดพ่นทางใบ ใช้ปุ๋ยน้ำ 1ลิตร ต่อน้ำ 100–150 ลิตรปริมาณการพ่น 7–10 วัน / ครั้ง
  2. กรณีใช้ราดลงดิน ราดโคน ใช้ปุ๋ยน้ำ 1 ลิตร ต่อน้ำ 50 ลิตรปริมาณการใช้อย่างน้อยปีละ 3–4 ครั้งหรือ 30–40 วัน/ครั้ง

ได้เห็นประโยชน์ที่มีมากในปุ๋ยหมักปลากันแล้วอย่าลืมทำไว้ใช้กับพืชผักหรือบำรุงไม้ดอกไม้ผลกันครับ แต่ถ้าไม่สะดวกก็สามารถหาซื้อได้ทั่วไป แต่การเลือกซื้อควรพิจรณาคุณภาพสักหน่อยครับ เพระจะช่วยให้เราได้ปุ๋ยหมักปลาที่มีธาตุอาหารเข้มข้นเมื่อนำมาใช้แล้วจะเกิดการเห็นผลอย่างชัดเจนครับ